เคยได้ยินกุ้งที่แพงที่สุดในโลกมั้ยครับ? วันนี้ผมเชฟแคปเปอร์ใช้จากซัพพลายเออร์หลักเป็นกุ้งแดง คาราบิเนรอส ประเทศสเปน และมีตัวอย่างคาราบิเนรอสประเทศโมร็อกโก มาเปรียบเทียบให้ดูครับ
ในรูปจะเป็นกุ้ง คาราบิเนรอส สเปนทั้งสองไซส์ครับ คือขนาด 15 ตัวโล และ 6 ตัวโล
ในถุงเป็นรูปโมร็อกโกครับ มีซัพพลายเออร์ไทยมาส่งให้ลองครับ
เมื่อเทียบกันบนเขียง ในราคาที่เท่ากัน กุ้งโมร็อกโกทั้งสามตัวฝั่งซ้ายจะมีขนาดที่เล็กกว่ากุ้งสเปน รวมถึงสีแดงที่ซีดกว่า และหางเปื่อยในบางตัว
เมื่อแกะเปลือกออก สีของเนื้อด้านในของกุ้งสเปนจะมีสีที่แดงกว่า และเมื่อเชฟนำไปดรายเอจและลงจานเมนู กุ้งโมร็อกโกส่วนในหัวจะไม่ค่อยติดกับตัวเนื้อ เนื้อสัมผัสมีรสชาติคล้ายกับของสเปน รสชาติจะอ่อนกว่าครับ รวมถึงรสชาติมันในหัวด้วยครับ
กุ้งคาราบิเนรอส (Carabineros) หรือที่บางครั้งเรียกว่า “กุ้งแดงสเปน” เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่มีค่ามากที่สุดในวงการอาหารทะเลของสเปน กุ้งพันธุ์นี้มักจะถูกใช้ในเมนูอาหารที่หรูหราและได้รับการยกย่องอย่างสูงในวงการอาหารยุโรปโดยเฉพาะในประเทศสเปน
ประวัติของกุ้งคาราบิเนรอส
กุ้งคาราบิเนรอส มีต้นกำเนิดจาก ทะเลแอตแลนติก และพบได้ในบริเวณชายฝั่งของประเทศสเปน โดยเฉพาะใน ทะเลสเปนตะวันตก และ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กุ้งพันธุ์นี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “Aristaeopsis edwardsiana” ซึ่งเป็นกุ้งที่มีลำตัวสีแดงสดและเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ไม่เหมือนกุ้งพันธุ์ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กุ้งคาราบิเนรอส มีรสชาติที่หวานและอ่อนนุ่ม ซึ่งมาจากการเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและไม่มีมลพิษ
การจับกุ้งคาราบิเนรอสส่วนใหญ่จะทำในแหล่งน้ำลึกบริเวณชายฝั่งของ อันดาลูเซีย และ เกาะคานารี ในสเปน ซึ่งการจับกุ้งพันธุ์นี้ต้องใช้เทคนิคพิเศษ เนื่องจากมันมักจะอาศัยอยู่ในที่ลึกและยากต่อการเข้าถึง
ลักษณะเฉพาะของกุ้งคาราบิเนรอส
- ขนาดและรูปร่าง: กุ้งคาราบิเนรอสมีขนาดใหญ่กว่ากุ้งทั่วไป โดยมีลำตัวที่ยาวและหนา ลักษณะเด่นคือลำตัวสีแดงสดที่สดใส ทำให้มันมีความโดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์และรสชาติ
- รสชาติ: กุ้งคาราบิเนรอสมีเนื้อที่หวานและฉ่ำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสชาติจะไม่เหมือนกับกุ้งอื่นๆ ที่มีรสชาติเป็นเค็มหรือเค็มปะปน
- เนื้อสัมผัส: เนื้อของมันจะเนียนนุ่มและมีความหนึบเบาๆ ซึ่งทำให้มีความแตกต่างจากกุ้งทั่วไปที่เนื้อจะนุ่มและไม่แน่นเท่า
การใช้ในอาหาร
กุ้งคาราบิเนรอสถือเป็นวัตถุดิบหรูหราที่ได้รับการยอมรับจากเชฟระดับโลก โดยมักจะนำมาปรุงเป็นเมนูพิเศษ เช่น:
- กุ้งคาราบิเนรอสย่าง: ย่างทั้งตัวและทานกับซอสที่ทำจากมะนาวและสมุนไพร
- กุ้งคาราบิเนรอสในซุป: ใส่ในซุปครีมทะเลหรือซุปกุ้ง
- กุ้งคาราบิเนรอสกับพาสต้า: ใช้เป็นส่วนผสมในพาสต้า หรือจานอาหารที่มีเส้นสด
- กุ้งคาราบิเนรอสในอาหารจานหลัก: มักจะปรุงอย่างเรียบง่ายเพื่อให้รสชาติของกุ้งโดดเด่น เช่น การปรุงด้วยเกลือทะเลและน้ำมันมะกอก
ความนิยมและการตลาด
กุ้งคาราบิเนรอสเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายใน ร้านอาหารหรู และมักจะถูกเสิร์ฟในเมนูพิเศษในงานเลี้ยงหรือโอกาสสำคัญต่างๆ เนื่องจากราคาและความหายาก การจับกุ้งพันธุ์นี้มักจะทำได้ในช่วงที่ทะเลมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้มันเป็นวัตถุดิบที่มีฤดูกาล
มันได้รับการยกย่องว่าเป็น “เพชรของทะเล” และเป็นหนึ่งในอาหารทะเลที่มีมูลค่าสูงในตลาด ทั้งในสเปนและในต่างประเทศ
สรุป
กุ้งคาราบิเนรอส เป็นกุ้งพันธุ์พิเศษที่มีรสชาติหวานเนื้อเนียนและสัมผัสที่นุ่ม พร้อมด้วยลำตัวสีแดงสดที่โดดเด่นจากกุ้งพันธุ์อื่นๆ กุ้งนี้มีความนิยมสูงในวงการอาหารหรูของสเปนและทั่วโลก การจับกุ้งชนิดนี้ต้องใช้เทคนิคพิเศษและมักจะนำมาทำเป็นอาหารระดับพรีเมียมในร้านอาหารหรู
หากคุณเคยมีโอกาสลองชิม กุ้งคาราบิเนรอส น่าจะได้สัมผัสถึงรสชาติที่อร่อยและไม่เหมือนใคร!
กุ้งคาราบิเนรอสโมร็อกโก (Moroccan Carabineros) เป็นกุ้งพันธุ์พิเศษที่มีความสำคัญในวงการอาหารทะเลของโมร็อกโกและภูมิภาคแอฟริกาเหนือ กุ้งคาราบิเนรอสจากโมร็อกโกถือเป็นหนึ่งในพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในวงการอาหารระดับพรีเมียมในสเปนและทั่วโลก โดยเฉพาะในร้านอาหารที่เน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงและอาหารทะเล
ต้นกำเนิดและที่มาของกุ้งคาราบิเนรอสโมร็อกโก
กุ้งคาราบิเนรอสที่พบใน โมร็อกโก มักจะจับจาก ชายฝั่งแอตแลนติก ซึ่งมีแหล่งที่อยู่อาศัยที่สะอาดและปลอดภัยจากมลพิษ ทำให้กุ้งที่จับได้มีรสชาติที่หวานอร่อยและคุณภาพสูง กุ้งคาราบิเนรอสนี้จะถูกจับจากน้ำลึกของทะเลแอตแลนติกและ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในบางครั้ง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่มีการควบคุมการจับอย่างเข้มงวด เพื่อให้กุ้งมีคุณภาพดีที่สุด
แม้ว่ากุ้งคาราบิเนรอสจะมีถิ่นกำเนิดในแถบทะเลแอตแลนติกและเมดิเตอร์เรเนียน โดยเฉพาะในสเปนและโมร็อกโก แต่การจับกุ้งพันธุ์นี้มักจะมาจากแหล่งน้ำลึก ซึ่งทำให้มันหายากและมีราคาแพงมากขึ้นในตลาด
ลักษณะและคุณสมบัติของกุ้งคาราบิเนรอสโมร็อกโก
- สีและรูปร่าง: กุ้งคาราบิเนรอสจากโมร็อกโกมีลำตัวสีแดงสด และขนาดค่อนข้างใหญ่ ลำตัวของมันมีความหนา และเปลือกแข็ง ปีกของมันมีขนาดใหญ่และชัดเจน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของกุ้งพันธุ์นี้
- รสชาติ: กุ้งคาราบิเนรอสมีรสชาติหวานและเนื้อที่ฉ่ำ นุ่ม ซึ่งแตกต่างจากกุ้งทั่วไปในตลาด มันมีรสชาติที่อ่อนนุ่ม และกลิ่นหอมทะเลที่สดชื่น เนื้อของมันจะมีความหนึบและเต็มไปด้วยรสชาติธรรมชาติ
- เนื้อสัมผัส: เนื้อของกุ้งคาราบิเนรอสจะเนียนนุ่มแต่ไม่หลวมเกินไป มีความหนาและสม่ำเสมอ ซึ่งทำให้การรับประทานมีความพึงพอใจในทุกคำ
การใช้ในอาหาร
กุ้งคาราบิเนรอสจากโมร็อกโกมักจะนำมาใช้ในเมนูอาหารทะเลระดับหรู เช่น:
- กุ้งคาราบิเนรอสย่าง: มักจะย่างทั้งตัวและเสิร์ฟกับซอสจากมะนาว, น้ำมันมะกอก, หรือสมุนไพรที่สดชื่น
- กุ้งคาราบิเนรอสในซุป: ใส่ในซุปทะเลหรือซุปครีมกุ้ง ซึ่งช่วยเสริมรสชาติของน้ำซุปให้เข้มข้น
- กุ้งคาราบิเนรอสในพาสต้า: ใช้ในพาสต้า หรือเมนูพิเศษที่เน้นรสชาติทะเล
- กุ้งคาราบิเนรอสเสิร์ฟพร้อมข้าว: ทานคู่กับข้าวหรือเสิร์ฟเป็นอาหารจานหลัก
ความนิยมและการตลาด
กุ้งคาราบิเนรอสโมร็อกโกมีความนิยมในตลาดอาหารพรีเมียมโดยเฉพาะใน สเปน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการบริโภคอาหารทะเลระดับสูง อีกทั้งยังถูกนำเข้ามาใช้ในร้านอาหารหรูในหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, และในภูมิภาคอื่นๆ ที่มีความต้องการอาหารทะเลคุณภาพสูง
เนื่องจากการจับกุ้งพันธุ์นี้มักทำในน้ำลึกและการจับมีข้อจำกัด กุ้งคาราบิเนรอสจึงถือเป็นวัตถุดิบที่มีมูลค่าสูงและหายาก ซึ่งทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่หรูหราและราคาสูง
สรุป
กุ้งคาราบิเนรอสโมร็อกโก เป็นกุ้งทะเลพันธุ์หายากและมีคุณภาพสูงที่จับจากทะเลแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กุ้งนี้มีรสชาติหวานและเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ทำให้มันเป็นที่นิยมในเมนูอาหารทะเลหรูหรา การจับกุ้งนี้ต้องใช้เทคนิคพิเศษและความระมัดระวัง จึงทำให้กุ้งคาราบิเนรอสจากโมร็อกโกเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่มีมูลค่าสูงและได้รับความนิยมในวงการอาหารระดับพรีเมียมทั่วโลก
กุ้งคาราบิเนรอสในประเทศต่างๆ
- สเปน (Spain):
- สเปนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงในการใช้กุ้งคาราบิเนรอส โดยเฉพาะในภูมิภาค อันดาลูเซีย(Andalusia) และ คานาเรีย (Canary Islands)
- Akelarre, El Celler de Can Roca, และร้านอาหารระดับมิชลินอื่น ๆ ในสเปนมักใช้กุ้งคาราบิเนรอสในเมนูพิเศษ
- กุ้งคาราบิเนรอสในสเปนจะถูกใช้ในเมนูหลากหลาย เช่น การย่าง, การทำซุป, หรือแม้กระทั่งการทานสด
- โมร็อกโก (Morocco):
- กุ้งคาราบิเนรอสจากโมร็อกโกได้รับความนิยมสูงในตลาดอาหารระดับพรีเมียม โดยเฉพาะใน ชายฝั่งแอตแลนติก ของโมร็อกโก
- โมร็อกโกมีแหล่งจับกุ้งที่สะอาดและปลอดมลพิษ กุ้งคาราบิเนรอสจากโมร็อกโกจึงมีรสชาติหวานและเนื้อสัมผัสที่ฉ่ำ
- กุ้งคาราบิเนรอสโมร็อกโกมักจะใช้ในร้านอาหารหรูในประเทศและส่งออกไปยังตลาดในยุโรป เช่น สเปนและฝรั่งเศส
- ฝรั่งเศส (France):
- ในฝรั่งเศส, กุ้งคาราบิเนรอสได้รับความนิยมในร้านอาหารที่มีความเชี่ยวชาญในอาหารทะเล โดยมักจะเสิร์ฟในร้านอาหารระดับสูง
- การใช้กุ้งคาราบิเนรอสในฝรั่งเศสมักจะเป็นการปรุงรสเรียบง่าย เช่น การย่างหรือทานคู่กับซอสหรูหรา เช่น ซอสบัตเตอร์หรือซอสมะนาว
- สหรัฐอเมริกา (USA):
- กุ้งคาราบิเนรอสในสหรัฐอเมริกามักจะปรากฏในร้านอาหารระดับพรีเมียม หรือร้านอาหารที่เชี่ยวชาญในอาหารทะเล
- การนำเข้ากุ้งคาราบิเนรอสจากสเปนหรือโมร็อกโกมักจะทำในช่วงเทศกาลหรือโอกาสพิเศษในร้านอาหารหรูๆ
- ญี่ปุ่น (Japan):
- ญี่ปุ่นใช้กุ้งคาราบิเนรอสในเมนูอาหารหรูบางประเภท เช่น ซาชิมิ หรือ ซูชิ ด้วยการใช้กุ้งสดๆ โดยเฉพาะในร้านอาหารระดับสูงที่เสิร์ฟอาหารทะเล
- กุ้งคาราบิเนรอสในญี่ปุ่นมักจะใช้สดหรือย่างอย่างพิถีพิถันเพื่อรักษารสชาติที่หวานและเนื้อสัมผัสที่นุ่ม
- สหราชอาณาจักร (United Kingdom):
- ในสหราชอาณาจักร, กุ้งคาราบิเนรอสเป็นวัตถุดิบที่มีมูลค่าสูงและใช้ในร้านอาหารที่เน้นการเสิร์ฟอาหารทะเลระดับพรีเมียม
- กุ้งคาราบิเนรอสมักจะถูกนำมาทำในเมนูพิเศษหรือเป็นส่วนหนึ่งของจานอาหารทะเลที่มีความหรูหรา
- อิตาลี (Italy):
- กุ้งคาราบิเนรอสในอิตาลีได้รับความนิยมในร้านอาหารระดับสูง โดยเฉพาะในเมนูที่เน้นการใช้วัตถุดิบสดใหม่
- มักจะนำมาทำใน ริซอตโต้ หรือ พาสต้า ทะเล ที่เน้นรสชาติของทะเล
ลักษณะและความนิยมของกุ้งคาราบิเนรอส
- รสชาติ: กุ้งคาราบิเนรอสมีรสชาติหวานและมีเนื้อสัมผัสที่ฉ่ำและนุ่ม แตกต่างจากกุ้งชนิดอื่นๆ ที่รสชาติอาจจะเค็มหรือกรอบกว่า
- การจับ: การจับกุ้งคาราบิเนรอสส่วนใหญ่ทำในน้ำลึกในทะเลแอตแลนติกและเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งทำให้มันหายากและราคาแพง
- การใช้ในอาหาร: กุ้งคาราบิเนรอสมักจะถูกนำมาใช้ในเมนูหรูหราทั่วโลก โดยเฉพาะในร้านอาหารระดับสูงในยุโรปและสหรัฐอเมริกา